เคยไหม? กับการรับประทาน โพรไบโอติก แต่สุขภาพลำไส้กลับไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น จนต้องยอมแพ้ให้กับปัญหา ลำไส้แปรปรวน ท้องไส้ปั่นป่วน ท้องเสีย ท้องผูก ขับถ่ายยาก หรือแม้แต่การขับถ่ายบ่อยเกินไป เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้ เมื่อมีตัวช่วยดี ๆ อย่างโพรไบโอติก หรือเจ้าเพื่อนจุลินทรีย์ดีที่ใช่สำหรับคุณ
แต่เจ้าเพื่อนจุลินทรีย์ตัวนี้นั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ เยอะมากจนไม่รู้จะเลือกอย่างไร หรือบางครั้งเลือกสายพันธุ์ผิด ก็กลายเป็นท้องไส้ปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิมไปซะอย่างนั้น ดังนั้นการเลือกจุลินทรีย์ที่ดี มีคุณภาพ และเป็นสายพันธุ์ที่ใช่กับตัวเราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้รับประทานควรต้องรู้ไว้
ขั้นตอนการเลือก “โพรไบโอติก” ที่ดีและมีคุณภาพ
- คัดเลือกสายพันธุ์: ควรเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หรือสายพันธุ์ที่มีการศึกษาวิจัยมาแล้ว
- ดูปริมาณ: ควรเลือกที่มีระบุจำนวนจุลินทรีย์ดีมาก ๆ เนื่องจากจำนวนจุลินทรีย์ดีจะถูกลดจำนวนลงระหว่างทางก่อนจะไปถึงลำไส้ เพราะต้องผ่านทั้งกรดและน้ำดี เป็นต้น
- การผลิต: ต้องมาจากโรงงานที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองขึ้นทะเบียนอย.อย่างถูกต้อง
- สังเกตสถานที่เก็บ: ควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ห่างไกลจากแสงแดด
หลักการเลือกสายพันธุ์โพรไบโอติก
เริ่มต้นง่าย ๆ จากการสังเกตตัวเองก่อนว่าเป็นคนกลุ่มไหน ถ้าเป็นกลุ่มคนที่ท้องผูกหรือขับถ่ายยากให้ลองเลือกสายพันธุ์ บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) ก่อน เนื่องจากสายพันธุ์นี้จะช่วยย่นระยะเวลาอาหารที่อยู่ในลำไส้หรือทำให้ขับถ่ายได้เร็วขึ้น แต่ถ้าคุณเป็นกลุ่มคนที่สำไล้ไวหรือขับถ่ายบ่อยวันละหลาย ๆ รอบ ควรหลีกเลี่ยงสายพันธุ์นี้รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีพรีไบโอติกอยู่ด้วย เพราะจะทำให้ท้องอืดได้ง่าย ถ้าหากคุณเป็นกลุ่มคนที่ขับถ่ายปกติ ให้ลองสายพันธุ์ไหนก็ได้ สัก 2-3 สัปดาห์ ทุกวัน โดยเริ่มแรกท้องไส้อาจรู้สึกปั่นป่วน เนื่องจากมีการแย่งพื้นที่ในลำไส้ระหว่างจุลินทรีย์กลุ่มต่าง ๆ และหากไม่มีอะไรผิดปกติให้กินต่อเนื่องทุกวัน และสังเกตดูว่ารู้สึกสบายท้องหรือขับถ่ายดีขึ้นหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ นั่นก็คือโพรไบโอติกสายพันธุ์ที่ใช่สำหรับคุณนั่นเอง แต่หากลองแล้วยังไม่พอใจ ก็ให้เริ่มต้นลองหาสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้ระยะเวลา 2-3 สัปดาห์เช่นกัน แต่ถ้าจะให้แน่ใจให้ทดลองต่อเนื่องทุกวันเป็นระยะเวลา 1 เดือนไปเลย และสุดท้ายกลุ่มคนที่ไม่พึงพอใจกับสายพันธุ์ไหนเลยเท่ากับก่อนที่จะรับประทาน ให้หยุดรับประทานประมาณ 2 สัปดาห์ จุลินทรีย์เดิมในลำไส้ของคุณก็จะค่อย ๆ กลับมาคล้ายคลึงกับของเดิมเอง
สิ่งสำคัญในการรับประทาน “โพรไบโอติก” ให้มีประสิทธิภาพดี
นอกเหนือจากขั้นตอนการเลือกที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็คือรับประทานอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้มีจุลินทรีย์ดีเข้าไปทดแทนตัวที่หลุดหายตายจากไปตามระยะเวลานั่นเองค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจาก พาราไดม์ ฟาร์มา
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://bit.ly/3NyU0db
https://bit.ly/3uaXT1k
https://bit.ly/3bzKQjs